เรื่อง หทัยรักบรรณาการ พิมพ์ครั้งที่3 ชุด บรรณาการแห่งรัก
ผู้เขียน ศศิภา
สำนักพิมพ์ ศศิอักษร
หล่อน...ถูกบังคับให้ต้องตกเป็นบรรณาการของหฤษคีรีอย่างไม่เต็มใจ เขา...ไม่ได้ต้องการให้หล่อนเป็นเพียงบรรณาการ แต่เขาต้องการให้หล่อนเป็นราชินีคู่บัลลังก์แห่งหฤษคีรี
หนึ่งไม่เคยลืมเลือนเจ้าตัวเปี๊ยกจอมซน และปักใจรักคงมั่นตลอดมา อีกหนึ่งไม่เคยลืมอ้อมกอดอันอบอุ่น เป็นกอดที่… แม้เวลา ผันผ่าน ไม่จืดจาง เดือนปีผ่าน สลักไว้ ในรอยจำ
เมื่อกาลเวลาผันผ่าน จากเด็กสาวชาวบ้านกลายเป็น เจ้าหญิงศาศวัตราราชกุมารี และต้องตกเป็นบรรณาการแห่ง หฤษคีรีอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อนั้นหัวใจสองดวงจะยังคง ผูกสัมพันธ์ เปี่ยมล้นด้วยความรักความทรงจำระหว่างกันหรือไม่
สำหรับเจ้าหลวงอัคคัญญ์ สตรีผู้นี้… ไม่ว่า ‘เธอ’ จะเป็นใคร แค่สาวชาวป่า หรือ สตรีผู้มีฐานันดรศักดิ์อันสูงส่ง ดวงหทัยของพระองค์ยัง ‘ยึดมั่น’ และ ‘รัก’ คงเดิมมิผันแปร
-----------------------------------------------------------
“ฝ่าพระบาท!” วรองค์เล็กกระเถิบออกห่างจนแทบจะตกตั่งไม้เสียแล้ว “บรรทมตรงนี้ไม่ได้นะเพคะ!”
“ทำไมเจ้าต้องเอะอะโวยวายด้วยเล่า” คนไม่เป็นเดือดเป็นร้อนยันพระวรกายขึ้นมาจับจ้องพระพักตร์แดงก่ำ “ถ้ำนี้เป็นถ้ำของข้า...ข้าอยากนอนตรงไหนก็ย่อมได้...ฤามิใช่?”
ถ้อยดำรัสถามที่ทำให้คนมีน้ำโหปิดพระโอษฐ์สนิทอย่างเถียงไม่ได้แม้สักคำ!
“เช่นนั้น หม่อมฉันจะไปนอนข้างนอก”
“อ้อ...อยากไปนอนท่ามกลางทหารของข้า...” ทรงหลุบพระเนตรจับจ้องผ้าแถมสีหม่น “...ในสภาพเช่นนี้น่ะรึ”
ก้มดูองค์เองแล้วก็ต้องพระพักตร์ซีดเผือด...ทรงลืมได้อย่างไรว่าอยู่ในสภาพไหน!
แล้วทีนี้...จะทำเช่นไร
“หม่อมฉันจะไปนอนตรงนู้นเพคะ”
‘ตรงนู้น’ ที่ว่าคือที่ที่พระองค์เปลี่ยนฉลองพระองค์
โดยไม่รอฟังคำทัดทาน วรองค์เล็กทำท่าจะก้าวลงจากตั่ง ก็พอดีได้ยินประโยคถัดมา
“งูในถ้ำมันชอบหลบตามซอกหิน ถ้าเกิดนอนๆอยู่แล้วมันเลื้อยมานอนบนตัวเล่า เจ้าจะทำเช่นไร ...แถมตรงนั้นยังหนาว ไม่มีกองไฟให้ความอบอุ่นด้วยนา ศาศวัตรา”
ทรงหาถ้อยคำมาทำให้พระองค์ไม่กล้าเสด็จไปไหน นอกจากบรรทมอยู่บนตั่งเดียวกัน!
คนตัวเล็กอยากจะกรีดร้องเพื่อปลดเปลื้องความอัดอั้นในพระทัย แต่เนื่องเพราะมิใช่วิสัยจึงได้แต่เม้มโอษฐ์จนแทบเป็นเส้นตรง
“ฝ่าพระบาททรงไม่ยอมไปบรรทมที่อื่นแน่แล้วใช่ไหมเพคะ”
รับสั่งถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว และคนตอบก็แย้มโอษฐ์พลางพยักพักตร์ เอนองค์ลงนอนตามเดิมแล้วจึงตบพระหัตถ์ลงข้างพระวรกาย
“มานอนข้างข้าเถิด...นอนใกล้กัน อุ่นใจดีมิใช่หรือ” ตรัสราวกับการ ‘นอนข้างกัน’ ของบุรุษและสตรีเป็นเรื่องปกติอย่างไรอย่างนั้น!
“ข้ารับรองว่าจะไม่...ทำร้าย และไม่หักหาญน้ำใจเจ้าแน่นอน”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายลังเลก็ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นเสมอพระอังสา
“ข้าสาบานด้วยเกียรติของข้า”
เกียรติของกษัตริย์...ยิ่งใหญ่ปานใด ทรงทราบดี และหากถึงขั้นสาบานเช่นนี้ย่อมไว้พระทัยได้ว่าจะทรง ‘ปลอดภัย’ ตลอดคืน
“เจ้านอนตะแคงด้านนู้น ข้านอนตะแคงด้านนี้ เอาหลังชนกันไว้...จะได้อุ่น” ทรงชะงักไปอึดใจก่อนรีบอธิบาย “นอนแบบนี้ ข้าทำบ่อยเวลาไปค้างกลางป่า เป็นการมอบความอบอุ่นแก่กัน...แบบทหาร”
คนฟังพอทำพระทัยได้...อย่างน้อยก็เป็นการนอน ‘แบบทหาร’ ละน่า
วรองค์เล็กค่อยๆ เอนองค์ลงนอน พลิกตะแคงตามเดิม พระวรกายนิ่งแข็งราวกับรูปสลัก กลั้นลมหายพระทัยรอกระทั่งคนข้างๆลงนอนเฉกเดียวกัน จึงค่อยๆผ่อนลมหายพระทัย เมื่อเจ้าหลวงอัคคัญญ์ไม่ได้ทำอะไร ‘เกินเลย’ ...พระองค์จึงปิดเปลือกพระเนตร ก่อนพระสติจะค่อยๆหลุดลอยสู่นิทรารมณ์
คนตัวโตซึ่งนอนตะแคงอยู่ใกล้กันไม่ได้ปิดเปลือกพระเนตร พระองค์ยังคงจับจ้องผนังถ้ำซึ่งปรากฏรูปเงาของแสงไฟวูบไหวไปมาตามแรงลมแผ่วๆที่เล็ดลอดเข้ามา นานพอสมควรกว่าจะรับสั่งสิ่งที่ติดค้างในพระทัย
“ศาศวัตรา...ข้าไม่ต้องการให้เจ้าเป็นแค่สนมอีกต่อไป เจ้าจะต้องเป็นมากกว่านั้น...”
...เป็นสตรีที่อยู่เหนือสตรีทั้งปวง!
เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายรับสั่งว่ากระไร พระองค์จึงค่อยพลิกองค์หันไปทอดเนตร ทรงยันพระองค์ขึ้นมาด้วยพระกรข้างหนึ่ง แล้วจับจ้องวงพักตร์ที่หลับพริ้ม พระเกศาเส้นหนึ่งซึ่งตกลงมาปรกพระพักตร์งดงามถูกหัตถ์ใหญ่จับมาทัดพระกรรณไว้ เผยให้เห็นพระปรางที่ทรงเคยสัมผัสมาแล้ว
ความนุ่มของมันเป็นเฉกใด...พระองค์ไม่เคยลืม
ความหอมติดตรึงพระทัยเพียงใด...ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น
แต่จะดีกว่านี้ ถ้าพระองค์ได้สัมผัสอีกครั้งด้วยความยินยอม
ทรงอยากจะจรดปลายนาสิกลงบนพระฉวีขาวผ่อง หากทรงสะกดกลั้นความต้องการขององค์เองไว้ ด้วยไม่อยากทำให้คนตัวเล็กขุ่นเคืองพระทัยและไม่ให้ผิดคำสาบานที่ตรัสไว้ก่อนหน้านี้
ทรงก้มลงกระซิบแผ่วเบาชิดพระกรรณ ฝากความอ่อนหวานส่งผ่านไปกับถ้อยดำรัสนั้นว่า
“จงหลับฝันดีจนอรุณรุ่งพรุ่งนี้ ศาศวัตรา”

