เรื่อง ชุดสามีวัยละอ่อน (สามีวัยละอ่อน-เด็กบอส)
ผู้แต่ง ขยาทิมาต
สำนักพิมพ์ ทำมือ
สามีวัยละอ่อน
ลันตานากับพฤกษ์ต้องแต่งงานกันเพราะคำสัญญาในรุ่นทวด
เธอแก่กว่าเขา และเขาก็น่าจะเป็นน้องชายมากกว่าสามีของเธอ
แต่สำหรับเขา ไม่มีทางที่จะเป็นแค่น้องชาย หรือสามีที่ต้องแต่งงานกันเพราะหน้าที่แน่ๆ
“พฤกษ์...ลันว่าจะคุยเรื่องค่าขนมน่ะ” เกือบจะเผลอแทนตัวเองว่าพี่
ถ้าไม่เผอิญสบตาแวววาวคู่นั้น
‘ถ้าลันแทนตัวเองว่า ‘พี่’ ก็คำละจูบ ถ้าอยากถูกรวบยอดก็เรียกอีกเรื่อยๆ ผมจะไม่เตือน แต่จะทำจนกว่าลันจะครางขอให้หยุด’
ยังคงจดจำคำขู่ของคนที่กระซิบบอกตอนเขาสาธิตวิธีทำให้เธอครางไม่ได้หยุดหย่อนที่บนเตียงเมื่อคืนก่อนได้
แล้วถ้าเด็กนี่บ้าดีเดือดปล้ำเธอในรถในรั้วมหาวิทยาลัยก็คงได้อับอายกันไปทั่วเป็นแน่
“ค่าขนม...”
เธอมองคนที่หรี่ตามองมาอย่างเจ้าเล่ห์ นี่เด็กบ้าคิดเรื่องลามกอะไรอี๊ก!
“รหัสเรียกรางวัลอะไรสักอย่างที่ผมทำให้บนเตียงหรือเปล่า...”
อยากจะบ้าตาย นี่คนหื่นกามขยับนิ้วขึ้นมาไล้ริมฝีปากเธอเบาแล้วก็จงใจขยับนิ้วนั้นเข้ามาในโพรงปากให้เธอดูดด้วย
“พอๆ” ลันตานารีบยันอกแกร่งคนที่ทำท่าจะจู่โจมเข้าใส่ได้ทุกเมื่อ นี่เขาแรงดีเกินไปหรือเธออ่อนหัดเรื่องการเป็นข้าวใหม่ปลามันกันแน่นะ
“พะ...ลันหมายถึงค่าขนมน่ะ ปกติคุณแม่ให้วันละเท่าไหร่ หรือให้เป็นเดือน...” เธอมองคนที่เอาแต่จ้องตรงมาราวกับไม่เข้าใจ
“สักหมื่นห้าต่อเดือน พอใช้ไหม” พูดต่อเองก็ได้ เอาจริงๆ มีปัญญาให้แค่นี้แหละ ถึงจะเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ ของครอบครัว แต่มันก็แค่ธุรกิจล้างรถครบวงจรไง ไม่ได้ร่ำรวยขนาดเขา และก็เศรษฐกิจแบบนี้ นี่แหละสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
“น้อยไปเหรอ เงียบไปเลย...สองหมื่น พี่ให้ได้แค่...อื้อ...”
“ผมรู้ว่าลันอยากให้ผมลงโทษ”
ไอ้เด็กบ้า ไอ้เด็กหื่นกาม เธอเม้มปากแน่น เพราะไม่คิดว่าแค่เผลอแค่คำเดียวจะถูกจู่โจมด้วยปากอีกฝ่ายขนาดนี้
ที่อยากรู้อีกเรื่องคือเด็กนี่คิดแต่เรื่องหื่นๆ แถมตั้งแต่แต่งงานกันมาไม่เคยเห็นแตะหนังสือสักที จะมาสอบทำไม มันน่าจะสอบตกอยู่แล้ว!!
“ตกลงให้สองหมื่นนะ มีอะไรเพิ่มเติมก็มาเบิกกับ...ลันได้” อยากจะตะโกนถามไปว่าคนที่แก่กว่าไม่แทนตัวเองว่า ‘พี่’ แล้วจะให้แทนตัวเองว่าอะไรวะ
“เอางี้ดีกว่า ผมให้ค่าขนมลันสองหมื่น แล้วลันอยากได้อะไรมาเบิกกับผม แต่...คุณต้องเอาใจผมมากๆ แล้วก็เรียกผมว่า ‘ผัวจ๊ะ’ ‘ผัวจ๋า’ โอเคไหม”
เด็กบอส
ตวิษา...บอสสาวที่คิดจะเปย์เลขาตัวเอง
อิทธิกร...เลขาที่ริจะเป็นเด็กบอส
จากคืนที่เร่าร้อนระหว่างบอสกับเลขา ก่อให้เกิดความสัมพันธ์แสนเสน่หาที่จะพันธนาการเธอและเขาเอาไว้ชั่วนิรันดร์
“ถ้าคุณอยากให้ผมถอด เราก็ต้องผลัดกัน ผมแก้หนึ่งชิ้น คุณแก้หนึ่ง...”
“งั้นอิทธิ์แก้เลย...ทำเลยนะ”
ไม่คิดเลยว่าตวิษาจะกระตือรือร้นขนาดนี้ ดูมือบางสิ ลูบหน้าอกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเดี๋ยวเธอจะได้รู้ว่ากำลังเล่นกันไฟบรรลัยกัลป์อยู่
เธอมองตามคนที่แกะกระดุมอีกแค่เม็ดเดียวก็เหวี่ยงเสื้อออกไปทางศีรษะจนผมยุ่ง
โอ้โห...ยิ่งหล่อ เซอร์ไปเลย
“คราวนี้ตาคุณแล้ว”
ไม่ใช่แค่ออกคำสั่ง แต่เจ้าเด็กนี่เริ่มปลดกระดุมเสื้อเธอแล้วด้วย! ไม่นานเกินรอเสื้อทำงานก็ถูกเหวี่ยงไปอย่างไร้ทิศทาง
เธอรู้สึกประหม่าไม่น้อยที่เขาเอาแต่จ้อง รู้สึกคล้ายกับต้องยกมือขึ้นบัง แต่อีกฝ่ายกลับจงใจใช้แขนตัวเองกันเอาไว้ด้วยการโอบ ลูบไล้เบาๆ ไปตามแผ่นหลัง
มันชวนสยิวและก็ทำให้แก้มทั้งแดงทั้งร้อนผ่าว
“อยากให้ผมถอดกางเกงเลยไหม”
เขากดหอมลงมาที่แก้ม ส่งยิ้มร้ายๆ พร้อมกับมือที่ไล้ขึ้นมาตามปลีน่อง
“ถอดเลย อยากเห็น” แล้วเธอก็ลูบไปตามความยาวของซิป ไม่เคยคิดเลยเหมือนกันว่าจะกล้าทำเรื่องพวกนี้ แต่ก็นะ เธอเลยวัย 30 มาพักหนึ่งแล้ว ถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หรือจะเรียกให้เจ็บหน่อยก็คือใกล้ความเป็นสาวแก่ไปทุกที
“คุณเลือกเองนะ” เขาหอมแก้มแล้วก็ดันคนที่เอาแต่จ้องลงไปนั่งข้างๆ มองเธอที่ขยับเปลี่ยนมาอยู่ในท่านั่งพับเพียบ และทุกครั้งที่เธอเลียริมฝีปากด้วยความประหม่าและอยากรู้อยากเห็น ก็เหมือนว่าแก่นกายเขาจะแข็งขืนมากขึ้นเรื่อยๆ
ตวิษามองกางเกงที่ถูกถอดลงไปจากปลายเท้าของคนที่ยังนั่งจนสำเร็จ เขาไม่ได้ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ แต่กางเกงชั้นในสีขาวที่นูนตรงกลางนั่นก็มากพอที่จะทำให้เธอแทบหัวใจวายแล้ว
“ตาคุณแล้ว” อิทธิกรลูบเบาๆ ไปตามชายกระโปรง อีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่งแล้วก็เอาแต่จ้อง
“มันไซซ์นั้นตลอดเลยเหรอ”
อืม...ไม่คิดเลยว่าเธอจะสนใจจนต้องถามออกมาด้วยเสียงสั่นๆ
“ก็ไม่นะ มันมีช่วงเวลาที่ใหญ่ได้มากกว่านี้”
อิทธิกรใช้หลังมือไล้ไปตามแก้มของคนที่อ้าปากค้าง
