เรื่อง ใจลวงรัก
ผู้แต่ง กรกานท์
สำนักพิมพ์ เขียนฝัน ในเครือ ไลต์ ออฟ เลิฟ
ภัสร์ไพลิน มีโอกาสได้พบกับพี่สาวฝาแฝดอีกครั้ง หากแต่การพบกันครั้งนี้ไม่ได้หวานชื่นเหมือนที่ใครคิดเอาไว้ เพราะนอกจากฝาแฝดคนพี่ของเธอจะต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราเพราะอุบัติเหตุแล้ว ดูเหมือนว่าโชคชะตายังเล่นตลกไม่พอ เมื่อเธอถูกคู่หมั้นของพี่สาวอย่าง อรัณย์ เจ้าของโรงพยาบาลชื่อดังบังคับให้แต่งงานด้วย
ถึงแม้จะลำบากใจ แต่เพราะไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปได้ สุดท้ายหญิงสาวจึงต้องยอมตอบตกลงแต่งงานกับเขา และดูเหมือนการแต่งงานครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายทั้งหมดเสียด้วย เพราะนอกจากจะต้องตามล่าหาตัวคนร้าย โดยมีชีวิตของเธอเป็นเดิมพันแล้ว สองหนุ่มสาวยังต้องคอยห้ามหัวใจตัวเองที่คอยแต่จะพุ่งชนเข้าหากันอีกด้วย
ภัสร์ไพลินรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ค่อยออก…เธอสะลึมสะลือตื่นขึ้นมากลางดึกและรู้สึกได้ว่าเปลือกตานั้นหนักอึ้งเกินกว่าจะลืมมันได้ แต่ที่แน่ชัดไปกว่านั้นคือมีร่างหนักๆ คร่อมทับเธออยู่ สองแขนของใครสักคนกำลังกอดรัดร่างของเธอไว้แนบอก หญิงสาวพยายามอย่างหนักในการลืมตามองแต่เธอกลับไม่พบอะไรเลยนอกจากความมืดมิดและแววตาใสๆ ที่อยู่ใกล้เกินไป
ใกล้จนริมฝีปากติดกัน…
และเขาคนนั้นกำลังจูบเธอ!
“อื้ม…”
คนตกใจครางขึ้นมากลางดึก จากนั้นไม่นานดวงหน้าของใครสักคนก็ผละออก น้ำตาของเธอแทบไหลเมื่อพบว่ามีใครสักคนกำลังลวนลามเธออยู่ แผงอกกว้างที่ใบหน้าของเธอถูกดึงเข้าหานั้นทำให้ภัสร์ไพลินได้รู้ว่าเป็นผู้ชายแน่ๆ ที่ดึงเธอเข้าไปกอดแล้วยังประกบริมฝีปากของบนหน้าผากของเธอเสียอีก…แล้วแบบนี้จะโดนใครก็ไม่รู้ข่มขืนหรือเปล่า
“ชะ ช่วย...”
“ชู่ว์…ฉันเอง”
‘ฉันไหน…’
หญิงสาวพยายามจะถามคำถามนี้แต่ทำได้เพียงตะโกนก้องอยู่ในใจเมื่อฤทธิ์ของยาแก้ปวดสั่งให้เธอหลับ ครั้นจะดิ้นออกจากอ้อมกอดปริศนาเธอจะทำไม่ไหวเมื่อชายคนนั้นยังกอดรัดไว้แน่นและเธอสัมผัสได้ถึงความโหยหาปนต้องการ…แล้วใครกัน ใครกันกำลังกอดเธออยู่ตอนนี้
“นอนเสีย แล้วนอนนิ่งๆ”
“ก็อย่ากอดสิ” เธอรวบรวมแรงที่มีสั่งทั้งที่ยังหลับตาอยู่ “ปล่อยฉัน…”
“นอน”
“กลัวแล้ว ปล่อยเถอะ”
“กลัวอะไร”
“อย่าทำฉัน” หญิงสาวที่ถูกยาแก้ปวดกดให้หลับยังพยายามขอร้อง “อย่า…”
“ไม่ให้ฉันแล้วเธอจะให้ใครฮึ…นอนเสีย นอนนิ่งๆ จะได้ไม่เจ็บมาก”
“แต่...”
ความพยายามต่อต้านของภัสร์ไพลินไม่เป็นผลเมื่อริมฝีปากของเธอถูกปิดทับลงมาอีกครั้งและอีกครั้ง…ดูดดื่มหนักหน่วงและผ่อนจังหวะให้เธอได้หายใจเป็นพักๆ หากแต่ว่าใบหน้าของชายผู้นี้ไม่ยอมถอยห่างจากเธอไป ยังอ้อยอิ่งอยู่ตามพวงแก้มและกลีบปากอย่างไม่ถอดถอนและรสจูบผสมฤทธิ์ยาแก้ปวดกำลังทำให้เธอมึนเมา จากเดิมที่สัมปชัญญะได้สั่งให้เธอขัดขืนสัมผัสรุกเร้าของชายหนุ่มผู้คุกคามนั้นเริ่มเลือนไปทีละน้อยเพราะความอ่อนหวานที่เขาส่งให้ทำให้หญิงสาวเริ่มหลงใหลกับรสหวานดูดดื่มและโอนอ่อนผ่อนตามได้ในที่สุด…แล้วใครกัน ใครกำลังจูบเธออยู่ในตอนนี้ ใครกำลังกอดเธออยู่ในตอนนี้ ใครกำลังทำให้เธอปล่อยร่างกายให้เขาได้เชยชมได้ถึงเพียงนี้…เธอไม่รู้และลืมตาขึ้นมามองหน้าเขาไม่ไหว สิ่งเดียวที่ภัสร์ไพลินรับรู้คือเขากำลังสัมผัสเธออย่างนุ่มนวลและทะนุถนอมแต่เปลี่ยนเป็นเร่าร้อนด้วยแรงปรารถนาสลับกันไปจนเธอหลงใหลเคลิ้มคลั่งและตกลงไปในห้วงภวังค์สุขแห่งพิศวาสเสน่หาจนอยากจะถอน ไม่รู้ว่าตัวเองใจง่ายมากแค่ไหนที่ให้ชายที่ตนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใครมากอดจูบอยู่เช่นนี้ ทว่าร่างกายของเธอกลับไร้เรี่ยวแรงฝืนเมื่อจิตใต้สำนึกมันกระซิบบอกว่าชายผู้นี้เป็นคนที่เธอคุ้นเคยและเธอกำลังอุ่นใจเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใคร…ใครกัน…ใคร
“เป็นของฉันนะภัสร์ไพลิน”
“นายอรัณย์…”
สัมปชัญญะสุดท้ายของภัสร์ไพลินรับรู้ว่าแล้วว่าชายผู้นี้เป็นใคร…เธอจำเสียงของเขาได้แล้ว ทว่า เป็นอรัณย์จริงๆ นะหรือที่กอดและจูบเธอออยู่ในตอนนี้
