ทาสวิวาห์ซาตาน ล้อมเดือน อินเลิฟ

เรื่อง                   ทาสวิวาห์ซาตาน

ผู้แต่ง                    ล้อมเดือน

สำนักพิมพ์                    อินเลิฟ

ชีวิตของคนที่เป็นลูกเมียน้อยอย่าง ‘ขวัญจิรา’ คงไม่มีวันที่จะเป็นอิสระแม้กระทั่งเรื่องความรัก

เพราะนอกจากจะถูกพี่สาวต่างมารดาและภรรยาหลวงคอยกลั่นแกล้งมาตั้งแต่เด็ก

กระทั่งตอนนี้ บิดาซึ่งไม่เคยสนใจและมอบความรักให้ก็ยังบังคับให้หญิงสาว

แต่งงานกับนักธุรกิจชาวต่างชาติที่เธอไม่เคยแม้แต่จะพบหน้า

เพื่อแลกกับการปลดเปลื้องหนี้สินที่เขาเคยกู้ยืมมา

ในเมื่อพรหมจรรย์ของเธอถูกขายทิ้งอย่างง่ายๆเพียงเพราะคำว่า ‘เพื่อครอบครัว’

สิ่งเดียวที่ขวัญจิราจะขอทำ ‘เพื่อตัวเอง’ เป็นครั้งสุดท้ายก็คือ...

การสวมชุดแต่งงานสีดำในวันวิวาห์เพื่อไว้ทุกข์ให้กับตัวเอง

เพราะนับจากวันนี้ไปเธอจะต้องกลายเป็นทาสสวาท

ที่ไม่มีวันจะได้รับอิสรภาพและความรักตราบชั่วชีวิตนี้

ทั้งๆที่ดวงตาดุดันของเขาสามารถสะกดให้ทุกคนหลงใหลได้ แม้แต่โสเภณีที่เจนจัดที่สุด

ทั้งๆที่อ้อมอกหนาหนั่นของเขาถูกใช้หลอมละลายร่างเปลือยเปล่าของผู้หญิงมานับไม่ถ้วน

แต่ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดมหาเศรษฐีหนุ่มเสน่ห์ร้อนชาวอิตาเลียน

เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตระดับโลกอย่าง ‘ติเอโก ลาซิคาโอ’

จะใช้เงินหลักสิบล้านซื้อตัวหญิงสาวชาวไทยที่เขาไม่เคยรู้จักนิสัยใจคอมาเป็นภรรยา

หากในสายตาของเขาแล้ว... ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็มีค่าแค่เพียงทาสบำเรอความใคร่ไม่ต่างกัน

แล้วถ้าติเอโกอยากจะมีทาสประจำเตียงสักคน... จะมีวิธีไหนที่เขาจะผูกมัด

แสดงความเป็น ‘เจ้าของ’ และ ‘เจ้านาย’ ของเธอได้เท่ากับการซื้อตัว

“เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าทำให้ฉันคลั่งจนแทบบ้า”

เสียงแหบพร่ากระซิบก่อนที่เขาจะบดจูบเร่าร้อน เรียกร้องจุมพิตรัญจวนจากหญิงสาว

ดื่มด่ำและตวัดปลายลิ้นร้อนอย่างรุกล้ำ ในขณะที่มือซุกซนตะโบมไล้สะโพกผาย

แล้วเกี่ยวกางเกงชั้นในตัวจิ๋วลงไปอยู่ที่ปลายเท้า 

ใช้ต้นขาของตนเบียดแทรกเรียวขาของเธอให้แยกออกจากกัน

ขวัญจิราหวาดกลัว ทว่าอีกใจนั้นก็อยากริลอง 

อยากเป็นของติเอโกผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอทั้งกายและใจ

สองขาเรียวเกี่ยวกระหวัดรอบเอวสอบอย่างลืมอาย 

เธอรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างวิ่งพล่านอยู่ในร่างกายของเธอ

มันทำให้เธอกล้าที่จะเผยอริมฝีปากขึ้นรับจูบจากเขา

กล้าที่จะแอ่นรับริมฝีปากอุ่นที่ดูดกลืนอกอวบอิ่มราวกับหิวกระหาย

“เสนอมาแบบนี้ อย่าหวังว่าฉันจะหยุดเหมือนคราวที่แล้วนะ”