เดลโทร่า เควสท์ 1-11 Deltora Quest1-11 อีมีลี่ ร็อดด้า(Emily Rodda) นาธาน Good Morning Publishing

 
    เรื่อง      เดลโทร่า เควสท์1-11 Deltora Quest1-11                                               
 ผู้แต่ง       อีมีลี่ ร็อดด้า(Emily Rodda)                        
 ผู้แปล       นาธาน                            
 สำนักพิมพ์ Good Morning Publishing

                  เดลโทร่า เควสท์ ตอน บุษราคัมสุดขอบฟ้า
       นวนิยานแฟนตาซีโฉมใหม่ที่โดดเด่นที่สุดจากออสเตรเลียโดยนักเขียนชนะเลิศ 5 รางวัลดีเด่นมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลกได้อ่านแล้ว
      "อีมีลี่ ร็อดด้า" เป็นนักเขียนที่ได้รับการยอกย่องว่าประสบควมสำเร็จในงานเขียนมากที่สุดคนหนึ่งของออสเตรเลีย เธอมีผลงานที่ได้ รับการตีพิมพ์มาแล้วมากกว่า 40 เล่ม และทุกเล่มติดอันดับหนังสือขายดี อีมีลี่ได้รับรางวัลดีเด่นถึง 5 รางวัล ชุด เดลโทร่าเควสท์นี้ เป็นนวนิยายแฟนตาซีผจญภัยอลังการ ซ่อนปมปริศนา ตื่นเต้น สนุกสนาน ลึกลับ รักเร้น เร้าใจ ครบทุกรส เรื่องราวของเดลโทร่าเควสท์ เต็มไปด้วยพลังสร้างแรงบันดาลใจให้มนุษย์ต่อสู้ฝ่าฟันสู่จุดหมายปลายทางของความฝันและมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่ ทั้งชุดเพิ่มความสนุกเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนครบ 11 เล่ม  พิมพ์จำหน่ายแล้วกว่าหนึ่งล้านเล่ม ในกว่า 30 ประเทศ
   
            เดลโทร่าเควสท์ เล่ม 2 ตอน ทับทิมสุดขอบรุ้ง
      ลีฟ บาร์ด้า และจัสมิน เพื่อนร่วมทางคนใหม่ผู้ดื้อรั้น ร่วมแรงร่วมใจกันมุ่งหน้าสู่การค้นหาที่เต็มไปด้วยอันตราย เพื่อจะได้พบกับอัญมณีทั้งเจ็ดที่ถูกขโมยไปจากเข็มขัดมนตราแห่งเดลโทร่า บุษราคัมสีทอง คืออัญมณีเม็ดแรกที่พวกเขาได้พบ ต่อเมื่ออัญมณีถูกค้นพบทั้ง เจ็ดเม็ดและนำกลับคืนมายังเข็มขัดแล้วเท่านั้น แผ่นดินของพวกเขาจึงจะเป็นอิสระจากอำนาจมืดของชาโดว์ลอร์ดผู้ชั่วร้ายได้ เพื่อค้นหาอัญมณีเม็ดที่สอง ลีฟ บาร์ด้าและจัสมินจะต้องเดินทางผ่านพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของธีแกนนางแม่มดปีศาจ   

       การผจญภัยของพวกเขาเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่น่าไว้วางใจ เล่ห์เหลี่ยมและอันตรายและในตอนสุดท้าย พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับผู้พิทักษ์ที่น่าขยะแขยงของบึงแห่งน้ำตาที่ต้องคำสาปตลอดกาล

             เดลโทร่า เควสท์ เล่ม 3 ตอน มนตรามุกดามหานที
      ลีฟ บาร์ด้า และจัสมิน สหายทั้งสามที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเท่าไรนัก เว้นก็แต่เพียงความเกลียดชังในศัตรูของพวกเขาได้ร่วมผจญภัยในภารกิจเสี่ยงตายเพื่อค้นหาอัญมณีที่หายสาบสูญไปจากเข็มขัดมนตราแห่งเดลโทร่า ชาโดว์ลอร์ดผู้ชั่วร้ายจะถูกทำลายลง เพียงแค่เมื่อเข็มขัดกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น พวกเขาประสบความสำเร็จในการค้นหาบุษราคัมสุดขอบฟ้าและทับทิมสุดขอบรุ้ง

     ซึ่งอัญมณีทั้งสองนี้มีอำนาจอันลี้ลับซึ่งทำให้พวกเขามีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้พวกเขามีกำลังใจที่จะมุ่งหน้าต่อไปเพื่อค้นหาอัญมณีเม็ดที่สามแต่ไม่มีใครในพวกเขารู้เลยว่ามีความน่าสะพรึงกลัวประการใดบ้าง ที่กำลังรอคอยพวกเขาอยู่ในเมืองต้องห้ามนครแห่งหนูใน มนตรา มุกดา มหานที

             เดลโทร่า เควสท์ เล่ม4 ตอน พรางเวิ้งทราย เพลิงไพฑูรย์
     อีมีลี่ ปล่อยหมัดเด็ด!
    การดำเนินเรื่องสนุกเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนที่ 4 นี้เป็นการผจญภัยในเวิ้งทะเลทรายใต้ดวงตะวันที่กำลังร้อนระอุ สาดแสงแรงร้อนลงมาผสานกับฟุ้งฝุ่นของผืนดินอันน่าพิศวง
     ทั้งลีฟ บาร์ด้า จัสมิน ครี และฟิลลี่ ผู้ซึ่งเดินทางร่วมเป็นร่วมตายตามหาอัญมณีเม็ดที่ 4 คือ'ไพฑูรย์' เพื่อนำมากอบกู้อาณาจักรแห่งเดล พวกเขายังคงมุ่งหน้าผจญภัยกับเหตุการณ์ข้างหน้าต่อไป
     โดยที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้าง เหตุการณ์ได้เพิ่มความซับซ้อนและซ่อนปมปริศนามากขึ้น

               เดลโทร่า เควสท์ เล่ม 5 ตอน มหัศจรรย์มรกต มรณคีรี
      การเดินทางไปยังหุบเขาแห่งความตายเพื่อเสาะแสวงหาอัญมณีเม็ดที่ 5 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง
      ทั้งลีฟ จัสมิน และบาร์ด้า ต้องพบกับปมปริศนาและอุปสรรคต่าง ๆ มากขึ้น แล้วเดลโทร่ามหานครจะเป็นอย่างไร พ่อ แม่ ของลีฟ ยังมี
       ชีวิตอยู่หรือไม่ ติดตามต่อไปได้อย่างตื่นเต้นสุด ๆ และสนุกสุด ๆ ในเดลโทร่า 5 ณ บัดนี้

            เดลโทร่า เควสท์ เล่ม 6 ตอน แอมมิธิสท์ทระนง วงกตศิขริน
     การผจญภัยที่ตื่นเต้นเร้าใจขึ้นเรื่อยๆ  เพื่อตามหาอัญมณีเม็ดที่6 คือ แอมมิธิสท์   ซึ่งเป็น สัญลักษณ์แห่งความจริงที่นิ่งสงบ  และการปลอบประโลม แฟนๆของ ลีฟ จัสมิน และบาร์ด้า.
     นิยายแฟนตาซีสร้างแรงบันดาลใจสู่ฝันอันยิ่งใหญ่

            เดลโทร่า เควสท์เล่ม 7ตอน  พร่างเพชรพรรณรายดับสลายคีรีชาล
    อํญมณีทั้ง 7 เม็ด       ซึ่งถูกตามหาและไล่ล่ามาตลอด   ณ บัดนี้ทั้งลีฟ จัสมิน และบาร์ด้า ได้อัญมณีครบทั้ง 7 เม็ดแล้ว
 บุษราคัม       สัญลักษณ์ แห่งความศรัทธา
  ทับทิม         สัญลักษณ์ แห่ง ความสุข
  มุกดา          สัญลักษณ์ แห่ง ความหวัง
  ไพฑูรย์       สัญลักษณ์ แห่ง อำนาจ
  มรกต          สัญลักษณ์ แห่ง เกียรติยศ
  แอมมิธิสท   สัญลักษณ์ แห่ง ความจริง ความนิ่งสงบและการปลอบประโลม
  เพชร           สัญลักษณ์ แห่ง ความบริสุทธิ์และความแข็งแกร่ง

           เดลโทร่า เควสท์เล่ม 8 ตอน อัญมณีอารียา เดลโทร่าอริยนคร
       กำแพงคุกสามารถพังทลายลงมาได้ ส่วนต่าง ๆ สามารถแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นป่าได้ นครแห่งเดล สามารถกลับกลายเป็นสถานที่สวยงามได้อีกครั้ง..
     อัญมณีแต่ละเม็ดมีอำนาจแห่งมนตราของมันเอง แต่เมื่อนำมารวมกัน ทั้งเจ็ดจะร่ายมนตร์วิเศษที่มีพลังอำนาจเหนือกว่า.
.เข็มขัดแห่งเดลโทร่าที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนกับที่สร้างขึ้นมาในครั้งแรกและสวมใส่โดยทายาทที่แท้จริงเท่านั้นจึงจะมีพลังอำนาจพิชิตศัตรูตัวฉกาจได้ แล้วใครล่ะคือทายาทที่แท้จริง ปริศนาของชื่อได้รับการเฉลยแล้ว นี่คือที่มาแห่ง DELTORA
 D: Diamond
 E : Emerald
 L : Lapis Lazuli
 T : Topaz
 O : Opal
 R : Ruby
 A : Amethyst
            เดลโทร่า ชาโดว์แลนด์ 9 ตอน โพรงพิฆาต เพลิงอำนาจคีตมายา
        ชาโดว์ลอร์ด สิ้นสุดอำนาจด้วยพลังมนตราแห่งเข็มขัดเดลโทร่า ถึงแม้มันจะแพ้พ่าย แต่มันก็ยังไม่ถูกทำลาย ! เพราะมีสัตว์ร้ายที่ถูกร่ายขึ้นจากเวทมนตร์ของมัน อยู่ที่ ชาโดว์แลนด์ การวางแผนคืนสู่อำนาจอีกครั้งของชาโดว์ลอร์ด ย่อมได้รับการต่อต้านสุดชีวิต...
    เสียงเพลงมายาการของขลุ่ยเพียแรน คือ สิ่งเดียวสามารถดับสลายพลังชั่วร้ายนั้นได้ การค้นหาขลุ่ยเพียแรนในตำนาน จึงเปิดฉากขึ้น อย่างเร้าระทึก สะเทือนขวัญ ท่ามกลางเพลิงมหานทีแห่งความตาย

          เดลโทร่า ชาโดว์แลนด์ 10 ตอน โดมดาริกา มรณกีฏาธาราพินา
       นี่คือส่วนหนึ่งของการบันทึกการก่อกำเนิด "ชาโดว์แลนด์"
    เมื่อชนชาวเฟียแรนทั้งสามเผ่าระหกระเหินออกจากดินแดนแห่งบรรพบุรุษ พวกเขาพบที่ลี้ภัยบนหมู่เกาะในท้องทะเลที่อยู่ในโลกล่าง เกาะของ "อูรอน" แยกออกมาจากเกาะของศัตรู คือ... "พลัมและคีราส" มันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ มีแหล่งน้ำตามธรรมชาติ และถูกปกคลุมไปด้วยเห็ดราที่ทั้งเรือและคนซึ่งอาศัยอยู่สามารถใช้ประโยชน์ได้

       เมื่ออำนาจแห่งมนตราของผู้คน ทำให้เกิดแสงสว่างขึ้น ถ้ำที่อยู่ภายในก็เปล่งประกายแสงสีทั้งเจ็ดของสายรุ้งออกมา
       มีคนในเผ่าอูรอนจำนวนหนึ่งค้นพบความสวยงามอย่างน่าประหลาด ในเกาะและถ้ำที่เปล่งแสงเรืองรองเหล่านั้น แต่ส่วนใหญ่กลับเห็น แค่เพียงความน่าเกลียดน่าชัง จึงได้มีการสร้างภาพลวงตาถึงความสวยงามที่หายไปของดินแดนแห่ง "เพียร่า" ให้เกิดขึ้น หลังจากเวลาผ่านไปได้สักระยะหนึ่งพวกเขาก็ยิ่งถลำลึกลงไปกว่าที่เคย พวกเขาช่วยกันถักทอม่านแห่งมนตราที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม สร้างโดมขึ้นมาเพื่อครอบเกาะแห่งนั้นเอาไว้ ซึ่งมีทั้งมนตราและการเป็นภาพลวงตาที่สมบูรณ์แบบ
       แต่กลับเป็นคนเหล่านั้นที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ชาวอูรอนเหล่านี้ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของเรา ต้องการจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกของความเป็นจริง
       แม้จะแปลกประหลาดก็ตาม แทนที่จะมีลมหายใจอยู่แต่ในโลกของความฝันที่สร้างขึ้นด้วยความคิดของตนเอง

            เดลโทร่า ชาโดว์แลนด์ 11ตอน  อวสาน สุขนาฏกรรม หรือ โศกนาฏกรรม
        เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่โลกเริ่มมีมา เสียงตัวโน๊ตอันบริสุทธิ์จากขลุ่ย "เพียแรน" ดังสะท้อนก้องไปทั่วทุกถ้ำของทะเลลับแห่งโลกล่าง
        ขณะที่ผู้คนแห่งเผ่า "คีราส" ฟังอยู่ ใบหน้าที่แหงนเงยเต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดีและเปียกปอนด้วยน้ำตา
        เสียงดนตรีปลอบประโลมน้ำที่กำลังพลิ้วกระเพื่อมไหว สะท้อนจากหินที่เปล่งประกายแวววาว กึกก้องไปทั่วจนกระทั่งในอากาศเองก็ดูเหมือนจะสั่นระริกไป เพราะเสียงอันหวานพลิ้วของมันและเหมือนว่าไม่มีกำแพงใดจะกักเก็บกั้นขวางมันไว้ได้
        มันลอยละล่องเข้าไปในเส้นทางต้องห้ามที่ซึ่งเหล่า "ปลิง" ได้ยิน และทำตัวคู้งอก่องอขิงอยู่ในความมืด มันขับขานบทเพลงไปทั่วทะเลมุกดา ที่ซึ่งเหล่า "ปลาไหลยักษ์" ผงกหัวขึ้นจากน้ำ และส่ายไปมาตามจังหวะเสียง พวก "อูรอน" ทีกำลังก่อสร้างอยู่บนเกาะของตนเงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำ พวกเขาถูกตอกตรึงให้ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ขณะที่เสียงกำลังล่องลอยเข้าไปในหู ใบหน้าของ "ไพเพอร์" ผู้อาวุโส ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แต่ร่างของเขากำลังสั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับเป็นการสั่นเพราะแรงลมหนาวจัดจนเย็นยะเยือกเป็นน้ำแข็ง และ "เพนน์" ที่กำลังจัดเก็บม้วนหนังสือให้เข้าที่เข้าทางในกระท่อม่หลังเล็กบนแพ ปรบมือด้วยความดีใจ และตื่นตาตื่นใจ...